การประชุมระหว่างหน่วยงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ โมร็อกโก เฟรนเต โปลิซาริโอ แอลจีเรีย และมอริเตเนียสิ้นสุดลงในวันนี้ที่เจนีวา โดยมีข้อตกลงที่จะขยายโครงการเยี่ยมเยียนครอบครัวระหว่างผู้ลี้ภัยชาวซาห์ราวีที่อาศัยอยู่ในค่ายใกล้เมืองทินดอฟ ประเทศแอลจีเรีย และครอบครัวของพวกเขาในดินแดนตะวันตก ซาฮาร่าAthar Sultan-Khan เสนาธิการของ UN กล่าวว่า “นี่เป็นขั้นตอนที่น่ายินดีเมื่อเราทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ผู้ลี้ภัยในทะเลทรายซาฮาราตะวันตก
เพื่อว่าวันหนึ่งผู้ลี้ภัยจะได้กลับบ้านอย่างมีศักดิ์ศรีและมีเกียรติ” ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย (UNCHR)
“ครอบครัวเหล่านี้แยกจากกันมานานเกินไป และโปรแกรมการเยี่ยมครอบครัวทำให้พวกเขาได้พบกัน ซึ่งมักจะเป็นครั้งแรกในรอบ 37 ปี เราไม่สามารถพูดเกินจริงถึงคุณค่าของความปีติยินดีและความหวังอันล้ำลึกซึ่งการกลับมาพบกันใหม่ของครอบครัวเหล่านี้นำมาซึ่ง” เขากล่าว
ผู้ลี้ภัยชาวซาห์ราวีเริ่มเดินทางถึงแอลจีเรียในปี 2519 หลังจากที่สเปนถอนตัวจากทะเลทรายซาฮาราตะวันตกและเกิดการต่อสู้แย่งชิงอำนาจควบคุม ตามรายงานของUNHCR
การเยือนครั้งนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญในโครงการ UNHCR เกี่ยวกับมาตรการสร้างความเชื่อมั่นที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งรวมถึงชุดการสัมมนาเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมแห่งความเชื่อมั่นและความไว้วางใจเพื่อเสริมความพยายามของสหประชาชาติในการหาทางแก้ไขทางการเมือง
การอภิปรายเกิดขึ้นมากกว่าสองวันในกรุงเจนีวา โดยบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับตารางเที่ยวบินใหม่สำหรับการเยี่ยมชมในปี 2014 และการสัมมนาเพิ่มเติม
โดยครั้งต่อไปจะมีขึ้นในเดือนตุลาคมปีนี้ที่โปรตุเกส ผู้คนเกือบ 20,000 คน
มีส่วนร่วมในการเยี่ยมครอบครัวตั้งแต่เริ่มโครงการสหประชาชาติพยายามช่วยแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับสถานะของทะเลทรายซาฮาราตะวันตกผ่านความพยายามของคริสโตเฟอร์ รอส ทูตส่วนตัวของบัน คี-มูน
โมร็อกโกได้นำเสนอแผนเพื่อเอกราชในขณะที่ตำแหน่งของ Frente Polisario คือสถานะสุดท้ายของดินแดนควรได้รับการตัดสินในการลงประชามติเกี่ยวกับการตัดสินใจด้วยตนเองซึ่งรวมถึงความเป็นอิสระเป็นตัวเลือก
ผู้เข้าร่วมการประชุมที่เจนีวาตั้งข้อสังเกตว่าทางเลือกในการส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศโดยสมัครใจจะเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาทางการเมืองในอนาคตที่บรรลุถึงกับฝ่ายต่างๆ ภายใต้การอุปถัมภ์ของสหประชาชาติ
แนะนำ : เคล็ดลับต่างๆ | เว็บรวมวิธีต่างๆ How to | จัดอันดับซีรีย์ | รีวิวครีม